ปัจจุบันในการดำเนินชีวิตของทุกคน ย่อมต้องมีการพบปะผู้คนหลากหลาย และทุกคนก็มักจะมีความคาดหวังกับตัวบุคคลอื่นๆ ที่ได้พบ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในตำแหน่งระดับผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ “บุคลิกภาพ” นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง นั่นเป็นเพราะว่าผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการส่วนใหญ่จะถูกตั้งความคาดหวังไว้สูงจากคนรอบข้าง ทั้งจากลูกน้องที่คาดหวังภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ หรือจากลูกค้าที่อาจตัดสินใจทางธุรกิจในระยะเวลาอันสั้นจากสิ่งที่ได้พบเห็น ดังนั้นบุคลิกภาพจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อตำแหน่งหน้าที่การงาน และเป็นตัวช่วยที่ผลักดันให้แต่ละคนก้าวไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจได้

     ที่ผ่านมาคนทั่วไปมักมีความเข้าใจคำว่า บุคลิกภาพในวงแคบ โดยจำกัดความคำว่า “บุคลิกภาพ” เพียงแค่ภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาภายนอก หรือสิ่งที่รับรู้ได้ด้วยตา แต่แท้จริงแล้วคำว่า “บุคลิกภาพ” ครอบคลุมไปถึง ทัศนคติ การพูดจาสื่อสาร พฤติกรรมการแสดงออกต่อสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการควบคุมอารมณ์ (EQ) บุคลิกภาพจึงเป็นลักษณะโดยรวมของบุคคล ซึ่งทําให้แต่ละบุคคลนั้นมีลักษณะแตกต่างกัน

     จากการเปิดเผยของ ธัญญา รอตก้า ผู้จัดการทั่วไป สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ John Robert Power ในฐานะสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในเรื่องการสอนด้านบุคลิกภาพ ระบุว่า ในแต่ละคนนั้นย่อมมีบุคลิกของตัวมาตั้งแต่เกิดและต่างก็มีจุดดีหรือจุดเด่นเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่การมาเรียนด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ เปรียบเสมือนเป็นการติดอาวุธเพิ่ม โดย John Robert Power จะมีหลักสูตรที่ออกแบบเพื่อให้ผู้เรียนทำความเข้าใจบุคลิกภาพของตัวเอง รู้ว่าจุดเด่นของตัวเองคืออะไรและจะพัฒนาจุดเด่นนั้นให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้อย่างไร และพร้อมทั้งเปิดใจพิจารณาถึงจุดอ่อนที่มีอยู่ เพื่อเรียนรู้วิธีในการบริหารจัดการ การเรียนบุคลิกภาพไม่ใช่การเปลี่ยนคนหนึ่งคนให้กลายเป็นอีกคนหนึ่ง แต่เป็นการช่วยเติมเต็มให้คนหนึ่งคนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะแต่ละคนย่อมมีบุคลิกเฉพาะตัวอยู่แล้ว และคงไม่มีใครอยากสูญเสียความเป็นตัวเองไป

     ดังนั้นก่อนเริ่มสมัครเรียนที่ John Robert Power จะมีการพูดคุยเพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น รวมถึงมีการทำแบบทดสอบเพื่อระบุสิ่งที่แต่ละคนสนใจ โดยนักเรียนแต่ละคนมีความสนใจในแต่ละด้านที่แตกต่างกันและมีความคาดหวังจากการเรียนที่ต่างกันด้วย ดังนั้นการทำแบบทดสอบก่อนเรียนจึงช่วยให้ครูเข้าใจความต้องการของนักเรียนและปรับการสอนให้สอดคล้องกับลักษณะนิสัยและความต้องการของแต่ละบุคคลได้

     ปัจจุบันการแบ่งหลักสูตรของ John Robert Power นั้นจะแบ่งตามตำแหน่งที่ทางหน้าที่การงานในสังคม เพราะแต่ละตำแหน่งหน้าที่การงานย่อมถูกคาดหวังจากคนอื่นๆ และมีการวางตัวที่แตกต่างกัน เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนไปปรับใช้กับตำแหน่งหน้าที่การงานที่ทำอยู่ได้ โดยหลักสูตรจะแบ่งเป็น 5 หลักสูตร คือ วัยรุ่นและนักศึกษา, ผู้เริ่มต้นทำงาน, ผู้บริหารระดับกลาง, ผู้ประกอบการอายุน้อยหรือทายาทที่สืบทอดกิจการครอบครัว และผู้ประกอบการหรือผู้บริหารระดับสูง

โดยในแต่ละหลักสูตรนั้นจะมีเนื้อหาที่เป็นแกนหลักสำคัญ 4 เรื่องคือ แรกเริ่มจาก “การปรับบุคลิกภายใน” คือการวางแนวคิดที่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่คิดภายในจะส่งผลต่อพฤติกรรมการแสดงออกภายนอก เช่น บางคนที่มองโลกในแง่ลบ คนเหล่านี้ใบหน้าจะไม่ยิ้มแย้ม จะหลบตาต่ำ การปรับบุคลิกภายในจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบุคลิกภาพของตัวเอง สร้างเป้าหมายในการพัฒนา และช่วยสร้างแรงจูงใจ และสอนเรื่องการบริหารจัดการอารมณ์ เมื่อปรับทัศนคติภายในให้ถูกต้องแล้วก็เข้าสู่กระบวน “การปรับบุคลิกภายนอก” โดยการเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผม ให้ดูดีทางสายตาและจากนั้นเข้าสู่แกนหลักเรื่องที่สาม ก็คือ “การสื่อสาร” โดยจะสอนในเรื่องการสื่อสารให้ได้ใจความและให้ได้ใจคน ซึ่งหมายรวมไปถึงการเลือกสรรคำพูดและการปรับใช้น้ำเสียง และเรื่องสุดท้ายคือ “การเข้าสังคมธุรกิจ” แม้แกนหลักของแต่ละหลักสูตรจะเหมือนกัน แต่เมื่อลงลึกไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่ามีความแตกต่างกันตามความเหมาะสมของบุคคลในแต่ละตำแหน่งตามที่แบ่งไว้ข้างต้น

     การเรียนพัฒนาบุคลิกภาพที่ John Robert Power สามารถการันตีได้ว่าผู้เรียนจะมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น เพราะในระหว่างการเรียนจะมีเจ้าหน้าที่สังเกตการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และก่อนจะจบหลักสูตรมีการทดสอบครั้งสุดท้ายเพื่อตรวจเช็คพัฒนาการ ปัจจุบันหลักสูตรที่ได้รับความนิยมมากคือ หลักสูตรผู้ประกอบการอายุน้อยหรือทายาทที่ต้องสืบทอดกิจการครอบครัว เนื่องจากปัจจุบันคนรุ่นใหม่ต้องการทำธุรกิจส่วนตัวเป็นจำนวนมาก แต่อายุยังน้อยและยังไม่มีประสบการณ์ ทำให้การทำธุรกิจส่วนตัวหรือสืบทอดกิจการเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ดังนั้น ผู้ประกอบอายุน้อยจึงมีภารกิจสำคัญ คือ ต้องสร้างภาพลักษณ์ให้น่าเชื่อถือ พิสูจน์ตัวเองเพื่อให้คนที่อายุมากกว่ายอมรับ หลักสูตรนี้จึงเน้นเรื่องช่องว่างระหว่างวัยเพื่อช่วยในการบริหารคนที่อายุมากกว่า โดยสอนการเลือกสรรคำพูดเพื่อการสื่อสารที่เหมาะสม การกระตุ้นคนในองค์กรให้มีกำลังใจทำงาน สอนเรื่องการฟังเพื่อเก็บข้อมูลและเพื่อสื่อสารกลับ และที่สำคัญเป็นการเสริมความมั่นใจสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่

     นอกจากหลักสูตรทั่วไปแล้ว John Robert Power ยังมีการหลักสูตรเฉพาะขึ้นมาชื่อว่า Brand Me ซึ่งเป็นหลักสูตรเน้นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับบุคคลเพื่อก่อให้เกิดการจดจำ โดยจะเป็นคอร์สที่ลงรายละเอียดเชิงลึก ทั้งการสร้างภาพลักษณ์โดยดึงเอกลักษณ์ของแต่ละคนออกมา โดยหลักสูตรนี้จะเกิดผลดีต่อผู้ประกอบการที่ต้องการผูกภาพลักษณ์ของตัวเองเข้ากับสินค้า เพราะเมื่อคนเห็นภาพเจ้าของกิจการจะนึกถึงภาพสินค้าตามมาโดยอัตโนมัติ

     เรียกได้ว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการยุคใหม่เริ่มหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพมากขึ้น เพราะแม้ความรู้ความสามารถจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่บุคลิกภาพที่ดีก็ถือเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยเติมเชื้อไฟให้แต่ละบุคคลสามารถทะยานสู่ความสำเร็จทางธุรกิจได้เร็วขึ้น

Copyright 2024, All Rights Reserved JohnRobertPowers